เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568 นายธนากร เกษตรสุวรรณ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย พร้อมคณะกรรมการ ได้เข้าร่วมหารือแนวทางความร่วมมือกับ นายอาณัติ มัชฌิมา ประธานสมาคมผู้ประกอบการท่าเทียบเรือสินค้าและคอนเทนเนอร์ พร้อมผู้บริหารท่าเทียบเรือในพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง
ในการนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มัธยะ ยุวมิตร รองคณบดีคณะโลจิสติกส์ มหาวิทยาลัยบูรพา ได้เข้าร่วมการประชุมในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการ Maritime Transport ของสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย โดยที่ประชุมได้มีมติเห็นพ้องร่วมกันในการยกระดับความร่วมมือระหว่างภาคผู้ส่งออกและภาคผู้ให้บริการท่าเทียบเรือในประเด็นเชิงนโยบายและเชิงปฏิบัติที่สำคัญ ดังต่อไปนี้
1) การเร่งรัดการพัฒนาด้านดิจิทัลของระบบนิเวศการขนส่งสินค้าทางทะเล
มุ่งเน้นการพัฒนาและเชื่อมโยงระบบดิจิทัลเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการท่าเรือ และแก้ไขปัญหาความแออัดในท่าเรือแหลมฉบัง อาทิ การพัฒนาระบบ Port Community System (PCS) และระบบบริหารจัดการคิวรถบรรทุก (Truck Queue System) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดระยะเวลารอคอย และลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์โดยรวม
2) การสนับสนุนการพัฒนาไปสู่ “ท่าเรือสีเขียว (Green Port)”
เพื่อยกระดับมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม ลดมลภาวะในพื้นที่ท่าเรือ และสนับสนุนให้สินค้าไทยมีปริมาณคาร์บอนฟุตปรินท์ต่ำ สอดคล้องกับข้อกำหนดและมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศคู่ค้าสำคัญ โดยมีแนวทางสำคัญ อาทิ การปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ขนถ่ายสินค้าเป็นพลังงานไฟฟ้า การปรับปรุงภูมิทัศน์และสภาพแวดล้อมในท่าเรือเพื่อลดการฟุ้งกระจายของฝุ่น รวมถึงการบริหารจัดการละอองเกสรดอกไม้เพื่อลดการปนเปื้อนต่อรถยนต์เพื่อการส่งออก
3) การผลักดันการลดต้นทุนการให้บริการของท่าเทียบเรือ
เพื่อรักษาและเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของสินค้าไทยในตลาดโลก โดยพิจารณาแนวทางการปรับปรุงอัตราค่าภาระท่าเรือและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องภายใต้สัญญาสัมปทาน ให้สอดคล้องกับการพัฒนาเทคโนโลยีและรูปแบบการให้บริการในปัจจุบัน
ทั้งนี้ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย และสมาคมผู้ประกอบการท่าเทียบเรือสินค้าและคอนเทนเนอร์ มีความเชื่อมั่นว่าความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างทั้งสององค์กร จะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมต่อสมาชิก สรท. กว่า 2,200 ราย ตลอดจนผู้ส่งออกไทยโดยรวม อีกทั้งยังเป็นประโยชน์ต่อผู้ให้บริการท่าเทียบเรือในการยกระดับประสิทธิภาพการให้บริการให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้บริการ และเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของท่าเรือไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
ในการเข้าร่วมเป็นที่ปรึกษาเชิงนโยบายในเวทีดังกล่าว บทบาทของคณะโลจิสติกส์ มหาวิทยาลัยบูรพา มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งในการบูรณาการองค์ความรู้ทางวิชาการ งานวิจัย และประสบการณ์เชิงปฏิบัติ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาระบบโลจิสติกส์และการขนส่งของประเทศในระดับนโยบายและระดับอุตสาหกรรมอย่างเป็นรูปธรรม
